สายเขียวบุกสภา ยื่น พรบ.กัญชาภาคประชาชน สธ.ย้ำ ‘ช่อดอก’ ยังไม่เป็นยาเสพติด

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยเดินทางไปยังรัฐสภาเพื่อยื่น พรบ.ควบคุมกัญชา-กัญชงภาคประชาชน เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจอาทิ การอนุญาตจดแจ้งปลูกกัญชาครัวเรือนละ 9 ต้น อนุมัติภายใน 1 วัน ไม่มีค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตอายุ 3 ปี ส่งรายงานทุกเดือน พื้นที่น้อยกว่า 5 ไร่ ไม่มีค่าธรรมเนียม ห้ามโฆษณาเกี่ยวกับ ช่อดอก บางสารสกัด อุปกรณ์การสูบ – ห้ามขาย: อาหารที่ทำจากช่อดอกยกเว้นมี อย. ห้ามขายโดย: เครื่องอัตโนมัติ ออนไลน์ โปรโมทลดแลกแจกแถม รวมถึงการนำเข้าโดยไม่รับอนุญาต คุก 3 ปี ปรับ 300,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับต่อครั้งเท่ากับ 10% ของมูลค่าสินค้า

จากนั้นช่วงบ่ายเครือข่ายสายเขียวเดินทางไปต่อกัญที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อเข้าร่วมหารือกับรัฐมนตรีว่าการ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พร้อมนำเสนอข้อร้องเรียนและขอความชัดเจนสถานะทางกฎหมายของกัญชา ตลอดจนเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขศึกษาและนำเสนอข้อมูลกัญชาอย่างรอบด้าน โดยไม่ยึดเอาความจริงด้านเดียวและข้อมูลของขบวนการด้อยค่ากัญชา รวมถึงการเปิดกว้างให้ภาคประชาชนและสายเขียวเข้ามามีส่วนร่วมออกแบบกฎหมายกัญชา

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เครือข่ายฯได้นำเสนอถึงประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพโดยมีข้อเสนอ 2 เรื่อง คือ 1. สถานะของกัญชา ขอให้ชัดเจนว่า เป็นยาเสพติดหรือไม่ 2.เมื่อมีสถานะชัดแล้ว เรื่องของการควบคุม หรือกำกับดูแลในการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ขอให้ชัดเจน นอกนั้นประเด็นอื่นๆ เช่น การอนุมัติ การนำมาใช้ การสวมสิทธิ์ เป็นต้น

“ไม่มีข้อเสนอว่า จะต้องเอาช่อดอกไปเป็นยาเสพติด เน้นย้ำว่า ไม่ได้มีข้อสรุป ขีดเส้นใต้เลยว่า ไม่มีการนำช่อดอกกลับเป็นยาเสพติด ปัจจุบันสิ่งที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดกัญชาที่มี THC สูงกว่า 0.2% นอกจากนั้น ต้น ใบ ดอก ราก ไม่เป็นยาเสพติด ซึ่งขณะนี้คณะทำงานยกร่างกฎหมายเราทำใกล้เสร็จแล้ว เมื่อเสร็จแล้วจะเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมารับฟังความคิดเห็นในการช่วยดูร่างกฎหมายกันก่อนจะเสนอร่างกฎหมายต่อไป” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าสรุปแล้วสถานะกัญชาจะมีความชัดเจน และมีไทม์ไลน์อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่กฎหมายจะเขียนขึ้น ส่วนจะไทม์ไลน์อย่างไรนั้น พยายามเร่งรัดอยู่ ไม่ได้อยากให้เนิ่นช้า

Data Origin at hfocus.org และ Facebook เขียนอนาคตกัญชาไทย