ชาวบ้านประสานเสียง กัญชาไม่เสรี

ชาวบ้านประสานเสียง กัญชาไม่เสรี ดับอนาคตเกษตรกร-ธุรกิจหยุดชะงัก

จากกรณีที่รัฐบาลใหม่จะประกาศยกเลิกกัญชาเสรี พร้อมพิจารณาปรับช่อดอกกลับไปเป็นยาเสพติด สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวบ้านอย่างมาก ถึงกับออกมาประสานเสียงกันจากหลายภาคส่วนเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกสำหรับผู้ได้รับผลกระทบทั้ง เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้บริโภค ไปจนถึงผู้ประกอบการผลิต

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสนุนไพรบ้านธิ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความวิตกกังวลของผู้ผลิตกัญชาซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินการปลูกอยู่ท่ามกลางกระแสข่าวที่ไม่ส่งผลดีต่ออนาคตของชาวบ้านชุมชน โดย นายประวีณ สายเลิศ รองประธานวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ระบุว่า แม้ระเบียบจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย แต่อยากให้ภาครัฐเข้ามาหาทางออกร่วมกัน เนื่องจากได้ลงทุนไปจำนวนมากจะได้รับผลกระทบหนัก
.

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการร้านกัญชาในท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ อย่าง น.ส.จิราพร บ่างศรีวงษ์ ระบุว่า กัญชาควรเข้าถึงได้กับทุกคน เห็นด้วยที่ควรมีข้อบังคับที่ชัดเจน เช่นใบคำสั่งแพทย์ หรือ การมีข้อบังคับต่างๆในการควบคุมร้านจำหน่ายกัญชาให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน เพราะหากควบคุมและนำกลับเป็นยาเสพติดอีกครั้งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ ขอให้พิจารณารอบด้าน

ขณะที่นักรัณรงค์กัญชา เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ออกมายืนยันสิทธิพื้นฐานประชาชนปลูกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ระบบใบอนุญาต โดยที่ผ่านมาไม่เคยค้านการควบคุมกัญชา แต่ขอให้ฟังข้อมูลรอบด้านอย่าและปิดกั้นกีดกันการเข้าถึงกัญชาของประชาชน

สอดคล้องกับฝ่ายนักลงทุนกัญชาจากเครือข่ายสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา เห็นว่า การหยุดชะงักของธุรกิจภาคอุตสาหกรรมนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงต้องการเรียกร้องขอความชัดเจนจากภาครัฐ ให้ออกนโยบาย และกฎหมายที่ชัดเจน รวมถึงร่วมมือกับภาคเอกชนผลักดัน และสนับสนุนคุณประโยชน์ของพืชดังกล่าว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เชื่อว่าพืชกัญชงและกัญชานั้นมีคุณประโยชน์มากกว่าโทษ