สสส.เดินหน้าเสริมภูมิคุ้มกันกัญชาให้เยาวชน
1 min readสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มุ่งให้ความสำคัญการป้องกันเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติด และอบายมุขอื่น ๆ โดยพัฒนาสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบที่เด็ก ๆ สามารถฝึกสติผ่านการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามวัย เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกเด็กตั้งแต่ปฐมวัย ช่วยปกป้องเด็กจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพได้อย่างรอบด้าน
ดร.อัญญมณี บุญซื่อ หัวหน้าโครงการการศึกษานำร่องการพัฒนากิจกรรมพัฒนาจิตสำนึกเพื่อรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยงจากกัญชาผสมอาหารสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา กล่าวว่า ได้พัฒนาชุดสื่อกิจกรรม 2 ชุด ได้แก่
1.ชุดสื่อกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกันจากกัญชาผสมอาหาร กิจกรรมต่อเนื่อง 5 วัน
วันที่ 1 สร้างการตระหนักรู้ภัยจากกัญชา
วันที่ 2 สร้างการมีความรู้ที่ถูกต้องผ่านเกม
วันที่ 3 สอนให้รู้คิดรู้ทัน
วันที่ 4 การยอมรับและรักตนเอง
วันที่ 5 ส่งต่อความเข้าใจด้วยกิจกรรมสร้างเมืองปลอดภัย
จากการนำชุดสื่อทดลองใช้ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 10 โรง ครอบคลุมเด็กนักเรียน 100 คน พบเด็กมีความตระหนักรู้ว่ากัญชามีโทษต่อร่างกาย 91.8% มีค่านิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชา 85.9% มีวิธีการแก้ปัญหาหากอยู่ในสถานการณ์ความเสี่ยงจากกัญชา 87.1% เด็กนำความรู้ที่ได้ไปช่วยคนอื่น 87.1% ลดปัญหาความกังวลของครูในเรื่องการขาดความรู้ ขาดกิจกรรม ขาดสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับกัญชา 87% ทั้งนี้ เตรียมขยายผลผลิตสื่อและจัดอบรมให้ผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กระทรวงมหาดไทย 50 แห่ง และปรับชุดสื่อให้เหมาะกับบริบทนักเรียนไทยมุสลิม โดยกระทรวงมหาดไทยจะนำไปใช้ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตพื้นที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 50 แห่ง
2.ชุดสื่อกิจกรรมพัฒนาจิตสำนึกเพื่อรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยงทางสังคมผ่านระบบออนไลน์แบบ Gamification เป็นนวัตกรรมให้กับครูใช้ออกแบบแผนการสอนเรื่องปัจจัยเสี่ยงครอบคลุมกิจกรรมฝึกการตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยง การไวต่อสถานการณ์ความเสี่ยง การจัดการปัญหาจากความเสี่ยงผ่านกิจกรรมกำกับกาย กำกับใจ กำกับตามกติกาสังคม และการใช้ในวิถีชีวิต โดยนำร่องจัดอบรมการใช้ชุดสื่อกิจกรรมให้ครูระดับอนุบาลถึงประถมศึกษา 50 คน จากโรงเรียน 27 โรงทุกภูมิภาค ครอบคลุมเด็ก 1,500 คน
ผลการทดลองใช้งานพบว่า ครูสามารถนำแนวทางการสร้างแผนการสอนจัดการความเสี่ยงด้วยระบบ Gamification ไปใช้ได้จริง 85% สามารถสร้างทัศนคติใหม่ให้เด็ก ช่วยเรื่องไม่ประมาท รู้จักพอ พึ่งตนเองในการแก้ปัญหาความเครียดในชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งเหล้าและบุหรี่ 88.4% พัฒนาการคิดของเด็กให้รู้จัก ใช้เหตุผลแก้ปัญหาแทนการใช้อารมณ์ความรู้สึก การตัดสินใจวางแผนการเงิน รู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งรอบตัวที่อาจเป็นความเสี่ยง การรู้เท่าทัน ไวต่อสถานการณ์ความเสี่ยง 87.1% รวมถึงเด็กได้ความรู้ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่อร่างกาย สังคม และจิตใจ 87.8%
แพทย์เภสัชกรรมไทย ดร.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยโครงการพัฒนาการแพทย์ไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai Medicine) มูลนิธิโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี กล่าวว่า ตามตำราปรุงยา (pharmacopoeia) ของแผนไทย ระบุชัดเจนว่าห้ามใช้กัญชาในเด็กวัยปฐมวัย ดังนั้นฝากถึงเยาวชนทุกคนห้ามเสพกัญชาโดยเด็ดขาด เพราะร่างกายของเด็กในวัยปฐมวัยสามารถสร้างแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ในร่างกายได้เอง การได้รับสารเอ็นโดรแคนนาบินอยด์เพิ่มเติมจากที่ร่างกายผลิตได้เอง จะยิ่งสร้างผลเสียกับร่างกาย ในระยะสั้นทำให้ ซึม สับสนวุ่นวาย พูดผิดปกติ ประสาทหลอน เดินไม่ตรง พฤติกรรมรุนแรง ส่วนระยะยาว ทำให้ความจำไม่ดี ความคิดแย่ลง ตัดสินใจควบคุมตนเองได้ลดลง ส่งผลต่อการเรียนตกลง ทั้งนี้ จึงได้พัฒนาคู่มือการใช้ชุดสื่อกิจกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันจากกัญชาผสมอาหาร เป็นคู่มือให้แก่ครูได้ใช้สอนเด็กนักเรียนควบคู่ไปกับชุดสื่อกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกันจากกัญชาผสมอาหาร เหล้า และบุหรี่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชา และเป็นเกราะป้องกันให้เด็กเยาวชน
นายโยชิทากะ ฮาชิวะดะ ประธานบริษัท เจเทคโตะ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัท เจเทคโตะฯ ร่วมสนับสนุนการผลิตชุดสื่อเกี่ยวกับกัญชาผสมอาหาร การสร้างความรู้ เพื่อความปลอดภัยต่อเยาวชนในโรงเรียน และร่วมการฝึกอบรมเพื่อป้องกันและช่วยเหลือเด็กจากเหล้า บุหรี่ และกัญชาผสมอาหาร และเตรียมนำชุดสื่อมาขยายผลให้กับทีมครู โรงเรียนในชุมชนใกล้เคียงบริษัท เพื่อให้เด็กเยาวชนสามารถใช้ชีวิตได้ปลอดภัยแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงก็ตาม และหวังว่าความร่วมมือ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก สสส. hfocus.org