ตะลึง!! UN ชูไทยประเทศยาบ้า แต่รัฐบาลจะแบนกัญชา!
1 min readสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เปิดเผยรายงานยาเสพติดโลกปีล่าสุด ฟันธงประเทศไทยแหล่งผลิตยาบ้าและฝิ่น ขณะที่ปริมาณการบริโภคกัญชาของชาวเอเชียต่ำสุดในโลก พ่วงผลวิจัยผู้หญิงในเอเชียใช้กัญชาน้อยที่สุดในโลก สอดคล้องกับผลสำรวจพบยาบ้านิยมมากที่สุดในเอเชียสัดส่วน 47% ขณะที่กัญชามีสัดส่วนเพียง 10% สวนทางนโยบายของรัฐบาลไทยเตรียมแบนกัญชา แต่อนุญาตให้ครอบครองยาบ้าได้ 5 เม็ด พร้อมเพิ่มโทษเสพกัญชาสันทนาการปรับสูงสุดถึง 60,000 บาท
UNODC เผยผลรายงานประจำปี พบทวีปเอเชียมีปริมาณการบริโภคยาเสพติดเกือบน้อยสุดโลก โดยสัดส่วนการใช้ยาเสพติดส่วนใหญ่ 47% คือยาบ้า รองลงมาคือ ฝิ่น ที่สัดส่วน 34% และน้อยที่สุดคือกัญชาสัดส่วนเพียง 10% ขณะที่ปริมาณการบริโภคของกัญชาของผู้หญิงชาวเอเชียมีสัดส่วนเพียง 9% ขณะที่ฝั่งทวีปอเมริกาเหนือสูงถึง 42%
UNODC ได้ย้ำในการสรุปรายงานว่า ประเทศแถบเอเชียเป็นฐานผลิตยาบ้าใหญ่สุดในโลก มีการแพร่ระบาดอย่างมากและการพัฒนารูปแบบการทำตลาดที่หลากหลายกว่ากัญชา และมีแนวโน้มที่ตลาดจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่กัญชามีการบริโภคที่ต่ำมาก โดยในปีที่ผ่านมาทั่วโลกจับกุมยาบ้าเพิ่มขึ้น 54% ขณะที่การจับกุมกัญชาลดลง 15% จึงเกิดความชัดเจนทั้งในด้านมหภาคและภูมิภาคว่ายาบ้าเป็นภัยที่อันตรายร้ายแรงกว่ากัญชา ซึ่งคนไทยและชาวเอเชียมีความเสี่ยงอย่างมาก
ผลการศึกษาดังกล่าวได้เปิดมุมคิดใหม่ให้กับการควบคุมกัญชาในประเทศไทย ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องความไม่สมดุลในการควบคุมยาเสพติด ตั้งแต่การอนุญาตเปิดผับบาร์ให้ดื่มเหล้าได้ถึงตี 4 หรือเรียกว่า สุราสันทนาการ และนโยบายยาบ้าที่อ่อนข้อลงเปิดช่องให้ผู้เสพครอบครองได้ 5 เม็ด หรือแม้แต่การที่รัฐเป็นเจ้าของโรงงานบุหรี่ แต่กลับมีแนวคิดแบนกัญชาสันทนาการพร้อมตั้งเกณฑ์โทษที่รุนแรงอย่างมากสวนทางกับรายงานการใช้ยาเสพติดโลก ทั้งการกำหนดโทษผู้ปลูกกัญชาปรับสูงสุดถึง 300,000 บาท และจำคุก 5 ปี การกำหนดโทษกัญชาสันทนาการ 60,000-100,000 บาท ทั้งที่พืชกัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ ขณะที่ ยาบ้า-สุรา-บุหรี่ มีโทษมากกว่าประโยชน์
สุดท้าย UNODC ได้ประเมินจำนวนสายเขียวทั่วโลกในปัจจุบันพบว่า ผู้ใช้กัญชามีอยู่ราว 219 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 4.3% ของประชากรโลก เพิ่มขึ้น 23% ในช่วงปีที่ผ่านมา ด้านรายงานข่าวระบุว่า ผู้ใช้กัญชาในไทยมีอยู่ราว 2-3 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลพบอีกว่าการผลิตกัญชากระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกเพราะเป็นพืชตามธรรมชาติที่มนุษย์เพาะปลูกมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ ยึดโยงกับวัฒนธรรมและศาสนาในหลายประเทศ รวมถึงไทยซึ่งมีองค์ความรู้เก่าแก่ด้านการใช้กัญชาเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค
ขอบคุณข้อมูลจาก UNODC