สุดปัง! ไทยยืนหนึ่ง ‘กัญชารักษาโรค’ ยอดผู้ใช้พุ่ง 125% จ่ายยาแล้วกว่า 18 ล้านรายการ!!
1 min readกัญชาไทยมาแรงแซงทางโค้ง! รายงานตัวเลขประชากรสายเขียวเมืองไทยเพิ่มขึ้น 25% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาหลังจากปลดล็อกกัญชาเสรีทางการแพทย์ คาดปริมาณผู้ใช้กัญชาในไทยทะลุ 3 ล้านคน ยอดผู้ปลูกกัญชาสูงกว่า 1 ล้านคน อัดฉีดเม็ดเงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาทหนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวกัญชา และสุขภาพ ส่วนกัญชาทางการแพทย์ก้าวหน้าระดับเอเชีย ด้วยยอดรวมผู้ป่วยกัญชา 250,000 คน เพิ่มขึ้น 125% ไทยจ่ายยากัญชาแล้วกว่า 18 ล้านรายการ พุ่งแซงหน้าประเทศพัฒนาแล้วอย่าง ‘แคนาดา’ ด้วยปริมาณการจ่ายยาและผู้เลือกใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค
ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยข้อมูลการใช้กัญชา นันทนาการในประชากรไทยอายุ 18 ถึง 65 ปี สูงขึ้นในช่วงระยะเวลาสามปี (2562-2565) ในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะในปีสุดท้าย (2565) ที่มีการเพิ่มสูงขึ้นของการใช้กัญชา 25% คิดเป็นการเติบโตถึง 10 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 2562 ซึ่งมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นราว 2% หลังจากเริ่มปลดล็อกกัญชาเสรีเชิงการแพทย์ เช่นเดียวกับตัวเลขผู้จดแจ้งปลูกกัญชาในระบบ ‘ปลูกกัญ’ ซึ่งล่าสุดพบว่าสูงกว่า 1 ล้านคน สอดคล้องกับผลศึกษาที่พบว่าผู้ใช้กัญชาส่วนใหญ่ 84% ปลูกเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน โดยมีกลุ่มที่ใช้สันทนาการเพียง 1 ใน 4 หรือราว 25% จากผู้บริโภคกัญชาทั้งหมด
ตัวเลขสถิติที่ออกมาพิสูจน์ว่า ‘คนไทยส่วนใหญ่ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์’ หรือคิดเป็น 75% ของผู้ใช้ทั้งหมด สวนทางกับคำกล่าวโจมตีจากหมอที่สร้างภาพบิดเบือนให้ผู้ใช้กัญชาไทยไทยส่วนใหญ่เป็นพวกสันทนาการ นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับกัญชาเพื่อรักษาโรคของไทย 250,000 คน มีปริมาณสูงกว่าประเทศที่กัญชาทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างแคนาดา 200,000 คน แต่ประเทศไทยมีระบบจ่ายยากัญชาฟรีในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปจนถึงงานวิจัยกัญชารักษาโรคและงานวิจัยใช้กัญชาบำบัดยาเสพติดอื่นๆ (Harm Reduction) การเก็บข้อมูลสำรวจตลาดออนไลน์ปัจจุบัน ยังพบว่ามียอดขายสินค้า กัญชาอัดแท่ง ใกล้เคียงกับ เจลลี่กัญชา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคเพื่อสุขภาพ
ประเทศไทยยังดีกว่าประเทศปลดล็อกัญชาในอีกหลายประเทศ เนื่องจากประชาชนเข้าถึงยากัญชาได้ง่าย มีการจ่ายยากัญชาแล้วกว่า 258,513 ราย การเติบโตเพิ่มขึ้น 125% ในช่วงปี 2566 ด้วยยอดปริมาณการใช้ รวม 18,113,148 (ขวด/ซอง/แผง) สร้างเม็ดเงินที่เกิดจากผลิตภัณฑ์และบริการกัญชาและกัญชงกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลการให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ พบว่าปัจจุบันศูนย์สุขภาพที่จ่ายยากัญชาเพื่อรักษาโรคกว่า 1,629 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น โรงพยาบาลศูนย์ / โรงพยาบาลชุมชน จํานวน 839 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 38 แห่ง รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) จํานวน 740 แห่ง และศูนย์ฯ สถาบันการศึกษา จํานวน 12 แห่ง โดยมียอดรายการยาที่มีการสั่งจ่ายมาก ที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ 7,348,654 ซอง/แผง ยาแก้ลมแก้เส้น 6,763,540 ซอง/แผง ยาทําลายพระสุเมรุ 2,064,421 ซอง/แผง น้ำมัน กัญชา (ตํารับหมอเดชา) 1,505,878 ขวด และ ยาแก้ลมเนาวนารีวาโย 220,568 ซอง/แผง เป็นต้น
ด้านผลสำเร็จนั้น คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาวิจัยเปรียบเทียบผลทางคลินิกของผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะประคับประคองที่ใช้ยากัญชากับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ยากัญชา พบว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ใช้ยากัญชามีระยะเวลาของการรอดชีพนานกว่า และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีการใช้กัญชาเพื่อบำบัดยาเสพติดอื่นๆ โดยผลการสำรวจการใช้สารเสพติดในประเทศไทย ช่วง พ.ศ. 2562 ถึง 2564 พบว่า คนไทยใช้กัญชา “เพิ่มขึ้น” 7.8 แสนคนและ ใช้พืชกระท่อม “เพิ่มขึ้น” 5 ล้านคน แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน คนไทยสูบบุหรี่“ลดลง” 2.4 ล้านคน ดื่มสุรา “ลดลง” 5.3 ล้านคน และใช้ยาบ้า “ลดลง” 8.7 หมื่นคน เพราะ “บุหรี่” “สุรา” และ “ยาบ้า” คือ “ยาเสพติดตัวจริง” ที่ทำลาสุขภาพของคนไทยและครอบครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน
ทั้งหมดนี้ อาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยมีองค์ความรู้ด้านยากัญชาที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งปริมาณผู้ใช้และความง่ายต่อการเข้าถึง ยากัญชาคือยาจากสมุนไพรที่ไม่มีสารเคมีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประกอบกับภูมิปัญญาตำรับยาสมุนไพรไทยตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ ในขณะที่มีอีกหลายประเทศในโลกที่เดินขบวนให้รัฐปลดล็อกเพื่อเป็นทางลือกในการรักษาคนที่เขารักโดยไม่ต้องพึ่งยาราคาแพง ไม่ว่าจะในเอเชียอย่าง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไปจนถึงซีกโลกตะวันตกอย่าง สหราชอาณาจักรและอังกฤษ และมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่จะทยอยปลดล็อกนโยบายกัญชา ไม่ว่าจะ อเมริกา ยุโรป เอเชีย แอฟริกา หรือแม้แต่ประเทศเผชิญสงครามอย่างยูเครน ไปจนถึงกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่เริ่มเดินเกมเปิดเสรีส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ และ ฮอลแลนด์
จุดที่ไทยอยู่ในวันนี้ แทบจะเป็นผู้นำกัญชาระดับโลก แต่ทำไมยังมีกลุ่มหมอที่ออกมาต่อต้านและจ้อข้อมูลกัญชาด้านเดียวออกสื่อรายวัน ทำให้นึกถึงขบวนการที่เสียผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมกัญชา ว่าจะอยู่เบื้องหลังการแสดงละครในครั้งนี้หรือไม่ ???