‘เศรษฐา’ ตีกลับ พรบ.กัญชา หวั่นสายเขียว-ภาคธุรกิจเดือดร้อน

อินไซด์ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปูดข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งตีกลับร่าง พรบ.กัญชา เตะยาวให้กลับไปเปิดรับฟังความคิดเห็นให้ครบถ้วน หวั่นประชาชนเดือดร้อน โดยรัฐมนตรีได้กำชับชัดเจนในที่ประชุมว่า

“รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับกฎหมายที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ”แหล่งข่าวระบุ

ปรากฎการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าเกิดจากการออกมาต่อต้านของเครือข่ายกัญชาและหมอแพทย์แผนไทย ที่มองว่า พรบ.กัญชาฉบับใหม่ลิดรอนสิทธิประชาชนและปิดกั้นการเข้าถึงยากัญชาของผู้ป่วย เนื่องจากมีข้อบทลงโทษการปลูกกัญชาในครัวเรือนและการบริโภคกัญชา สูงถึง 60,000-100,000 บาท พร้อมโทษจำคุกคดีอาญาถือเป็นโทษที่โหดเหี้ยม ขณะที่สุรา-บุหรี่ ไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้สันทนการ ซ้ำร้ายรัฐยังอนุญาตให้เปิดผับ-บาร์ถึงตี 4 จึงถูกตั้งคำถามว่า แบนกัญชาแล้วมาส่งเสริมสุราสันทนาการหรือไม่

ล่าสุดเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้ยื่นรายชื่อ 10,000 รายชื่อเพื่อยื่นต่อรัฐบาลให้ทบทวนเรื่องริดรอนสิทธิประชาชนด้านกัญชา ซึ่งรัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ว่า สุรา-บุหรี่ มีปะรโยชน์มากกว่ากัญชาอย่างไร เหตุใดจึงไม่มีกฎหมายควบคุมสันทนาการ ทั้งที่เป็นตัวก่อโรคคนไทยไม่มีประโยชน์เชิงการแพทย์และเป็นสาเหตุของการตายบนท้องถนนสูงติดอันดับโลก นอกจากเป็นธุรกิจของเจ้าสัวผูกขาดและรัฐบาลมีโรงงานผลิตบุหรี่ซึ่งกำลังขาดทุนจากการตีตลาดของผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่

“หน่วยงานรัฐและนักการเมืองต้องใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดมาตรการควบคุมกัญชา ไม่ใช้ความต้องการทางการเมืองและกระแสมาเป็นเงื่อนไข เพราะจะทำให้มาตรการเหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติจริงได้และอาจย้อนกลับมาทำร้ายประชาชนหรือนักปลูกตัวเล็กได้ในอนาคตจึงเป็นหน้าที่ของประชาชนโดยรวมที่ต้องช่วยกันจับตาดู”

นอกจากนี้รัฐบาลยังมีความพยายามแบนกัญชาจากก๊วนพรรคร่วมโดยอ้างการจัดประชุมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเพียง 150 คน แต่อ้างว่าเป็นข้อสรุปของคนทั้งประเทศ ทั้งที่ผู้ป่วยกัญชาในไทยมีถึง 250,000 คน สูงกว่าไม่รู้กี่เท่า ประกอบกับการขึ้นเวทีโจมตีกัญชาของหมอหน้าเดิมๆในงานดังกล่าว จึงทำให้คิดได้ว่า อุตสาหกรรมยาแพทย์แผนปัจจุบันเสียผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมกัญชาใช่หรือไม่

สอดคล้องกับข้อคิดเห็นของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า สมุนไพรที่คนไทยใช้รักษาตัวเอง สามารถเข้าถึงได้ มีตำรับตำราหลวงมาเป็น 100 ปี กลับถูกปู้ยี่ปู้ยำ นำมาใช้ในทางที่ผิด ถูกคนไทยที่ไม่เคยรับทราบด้านดีของกัญชาสร้างกำแพงขวางกั้น ประเทศไทยต้องตาม บั้นท้ายฝรั่งไปทุกเรื่อง เช่นนั้นหรือ? ยาต้องซื้อตัองใช้ จากต่างประเทศ ที่ฝรั่งว่าดี รวมแม้กระทั่งกัญชาที่ใช้รักษา ก็ต้องเป็นกัญชาที่ขึ้นทะเบียน ของฝรั่ง ถึงจะยอมให้คนไทยได้ใช้ได้ ราคาเป็น 10,000 บาท เป็น 100,000 บาท

เรื่องนี้ร้อนถึงที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต้องรีบออกมาปฏิเสธกรณีที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้นำช่อดอกกลับไปเป็นยาเสพติดในช่วงที่กำลังร่าง พรบ.กัญชาฉบับใหม่ พร้อมโยนให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ตัดสินใจ ร้อนถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ต้องออกมาเคลียร์ประเด็นว่ายังไม่มีแนวทางดังกล่าว อาจเพราะรับรู้ถึงแรงต่อต้านที่เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ โดยในวันที่ 8 มีนาคมนี้ สมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน เตรียมเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมจัดกิจกรรมรวมตัวแสดงพลังต่อต้านการควบคุมกัญชาสันทนาการพร้อมเปิดเวทีประชาพิจารณ์และเสวนาปัญหาของ พรบ.ฉบับใหม่ ณ ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร