โลกเปลี่ยน! งานวิจัย 40 ปียืนยัน “คนใช้กัญชาแซงหน้าสุรา” หลังเปิดเสรี
1 min read
วารสาร ‘แอดดิกชัน’ (Addiction) เผยแพร่งานวิจัยระดับโลก ที่เก็บข้อมูลมามากกว่า 40 ปี จากหน่วยงานสำรวจการใช้ยาเสพติดและสุขภาพระดับชาติของสหรัฐฯ พบว่า ชาวอเมริกันที่สูบกัญชาในแต่ละวันหรือเกือบทุกวัน มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในรอบประวัติศาสตร์ ปัจจุบันมีผู้ใช้กัญชาประมาณ 17.7 ล้านคนต่อวัน สูงกว่าจำนวนผู้ดื่มสุรารายวัน ที่ประมาณ 14.7 ล้านคน เป็นครั้งแรก ความนิยมกัญชาเพิ่มขึ้น 15 เท่า หลังทยอยปลดล็อกเสรีในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา
ด้าน Paul Armentano รองผู้อำนวยการองค์กรต่อสู้เพื่อกัญชา NORML ระบุว่า ยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกานั้นลดลงหลังจากที่กฎหมายปลดล็อกให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สอดคล้อง CivicScience ซึ่งรายงานข้อมูล Big Data ด้านยอดขายกัญชาในช่วง Dry January พบว่า ผู้ที่หันมาบริโภคกัญชาทดแทนสุรากว่า 1 ใน 3 หรือราว 34% เป็นคนรุ่นใหม่ Gen Z อยู่ในช่วงอายุ 21-24 ปี ขณะที่อีก 24% นั้นเป็นชาว Gen Y อายุ 25-34 ปี นอกจากนั้นยังพบว่าผู้บริโภค Gen Z มีพฤติกรรมดื่มสุราน้อยกว่ากลุ่มประชากรใน Gen Y มากถึง 20% พิสูจน์ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ตระหนักถึงพิษภัยสุรามากขึ้นและเลือกบริโภคสิ่งที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่ายุคก่อน โดยชาววัย Gen Z ช่วงอายุ 18-24 ปี มากกว่า 80% มองกัญชาเป็นเครื่องมือในการเข้าสังคมมากกว่าการดื่มสุรา และมองกัญชาเป็นตัวเลือก First choice มากกว่าการเลือกบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
ดร.บรูค วอร์สเตอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอีโอแคร์ บริษัทกัญชาทางการแพทย์ ระบุว่า “ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับกัญชาคือการเป็น ‘ประตู’ สู่ยาอื่น ๆ” ซึ่งไม่ได้ผ่านวิจัยทางการแพทย์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ส่งผลให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ตัวยาที่แรงกว่าได้ มากไปกว่านั้น นอกจากนี้ความผิดปกติจากการใช้กัญชา ไม่ได้นำไปสู่ความเสียหายต่ออวัยวะหรือการเสียชีวิต ไม่เหมือนกับความผิดปกติซึ่งเกิดจากการใช้แอลกอฮอล์หรือฝิ่น
