เครือข่ายสายเขียวบุกกระทรวงสาธารณสุข ‘คัดค้านดึงกัญชาเป็นยาเสพติด‘ เตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องทั่วประเทศ

สหพันธ์กัญชาไทยรวมตัวกันที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อยี่นหนังสือต่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด อ.ย. พร้อมแนบข้อมูลงานวิจัยประโยชนน์ของกัญชารวม 6 ชิ้นโดยเหล่าคณาจารย์ระดับประเทศ รวมถึงรายงานสถิติด้านเศรษฐกิจกัญชามีมูลค่า 280,000 ล้านบาท ซึ่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดผ่านมืออาจารย์คมสัน ทินกร ณ อยุธยา โดยมี ผอ.กองวัตถุเสพติดเป็นผู้รับหนังสือ

ตัวแทนของสหพันธ์กัญชาไทย กล่าวว่า กัญชาถูกกฎหมายในไทยสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ประเทศราว 280,000 ล้านบาท กระจายเม็ดเงินในท้องถิ่นผ่านธุรกิจเกี่ยวเนื่องรวมถึงการจ้างงานเช่นภาคท่องเที่ยวเป็นต้น ดังนั้นหากนำกลับไปเป็นยาเสพติดจะกระทบกับผู้ประกอบการจำนวนมากเช่นเดียวกับผู้บริโภคที่ถูกริดลอนสิทธิ์ ตลอดจนกระทบกับภาคอุดมศึกษาศาสตร์ของหลายมหาวิทยาลัย นักศึกษากัญชาเวชศาสตร์เรียนมาแล้วจะทำอย่างไร

“การมอบหนังสือและเอกสานประกอบในครั้งนี้เพื่อให้คณะกรรมการยาเสพติดใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องกัญชา เพราะที่ผ่านมาภาครัฐยึดแต่ข้อมูลของ TDRI ซึ่งไม่เป็นธรรม“

ตัวแทนของสหพันธ์กัญชาไทยกล่าวต่อว่า แนวทางการขับเคลื่อนของสมาพันธ์ฯ จะเน้นการประชาสัมพันธ์ การรวมพลังมวลชนสายเขียวทุกจังหวัด และการดำเนินการทางกฎหมายโดยการฟ้องร้องศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ กรณีละเมิดสิทธิ์ประชาชน

สหพันธ์กัญชาไทยนัดหมายการรวมตัวครั้งต่อไปในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ณ ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ และวันที่ 5 กรกฎาคม ณ ศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ สหพันธ์กัญชาไทย

ด้านเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยเข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ณ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมเปิดเผยว่า กัญชาควรอยู่สถานะไหน และควรกลับเป็นยาเสพติด หรือควรใช้พระราชบัญญัติ ทางเครือข่ายฯ มองว่าผลวิจัยที่ออกมาถึงผลร้ายของกัญชา ดูจะเป็นการสนับสนุนแต่ให้กลับเป็นยาเสพติดอย่างเดียว ซึ่งไม่เป็นธรรมกับอีกฝ่ายที่ใช้ประโยชน์กัญชาในการบำบัดรักษา อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ ยืนยันให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อมาดูชุดข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง

“ไม่ได้คาดหวังว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด จะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่เราก็ต้องเคลื่อนไหว ทำอะไรได้ก็ต้องทำ“

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยนัดหมายจัดงานนิทรรศการกัญชา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 4 กรกฎาคม และเตรียมจัดตลาดนัดกัญชาในวันที่ 7-8 กรกฎาคม บริเวณหน้าสำนักงานสหประชาชาติ (UN) และทำเนียบรัฐบาล