เศรษฐี-คนมีการศึกษา แห่ใช้กัญชา มองเป็นไลฟ์สไตล์โลกยุคใหม่

มหาวิทยาลัย Louisville ในสหรัฐฯ เปิดเผยผลศึกษาประชากร 543,195 คน พบว่าประชากรที่มีรายได้สูงกว่าเดือนละ 200,000 บาท และผู้มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป หันมาบริโภคกัญชาเพิ่มขึ้น 100% หรือราวหนึ่งเท่าตัวในช่วงระหว่างปี 2013-2022 สอดคล้องกับทัศนคติของประชากรกว่า 80% ที่มองว่ากัญชามีประโยชน์ต่อร่างกาย ขณะที่คนรุ่นใหม่มองกัญชาปลอดภัยกว่าเหล้าเบียร์ สะท้อนความนิยมของกัญชาที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นหลังจากปลดล็อคเสรี

วิจัยดังกล่าวระบุถึงเหตุผลว่า ผู้มีรายได้สูงและผู้มีการศึกษามองว่ากัญชาคือไลฟ์สไตล์โดยไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป แต่คือสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสุขภาพในโลกยุคใหม่ที่เผชิญกับความเครียดถาโถมในแต่ละวัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้สูงซึ่งส่วนมากมีความเครียดจากภาระหน้าที่การงาน ส่วนผู้มีการศึกษาคนรุ่นใหม่ก็เผชิญกับความกดดันจากค่านิยมสมัยใหม่ เช่น ค่าใช้จ่ายรายเดือน หนี้สิน และการทำงานหนัก จึงเลือกที่จะใช้กัญชาเพื่อพักผ่อนอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปดื่มสังสรรค์ข้างนอก ดังนั้นคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้กัญชามากกว่าการใช้สารอื่นๆที่มีผลเสียต่อร่างกายเพื่อความผ่อนคลายในชีวิต

“เทรนด์ความนิยมกัญชาดังกล่าวเป็นกระแสในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆในสังคมอเมริกัน จนผลิตภัณฑ์กัญชาทั้ง ขนมกัญชา น้ำมันกัญชา อาหารเสริม รวมถึงยาที่มีส่วนผสมของ CBD-THC มีมูลค่าตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้กัญชาได้กลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ในแง่มุมด้าน Wellness ซึ่งหนึ่งในกุญแจสำคัญของความสำเร็จนี้เกิดจากการยอมรับของสังคม การใช้กัญชาถูกยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติ ผู้คนมองว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดที่เป็นปิศาจร้ายอีกต่อไปเหมือนในครั้งอดีต” ส่วนหนึ่งของผลสรุปการศึกษาดังกล่าว