เกิดอะไร? เมื่อผู้สูงอายุหันมาใช้กัญชาเพิ่มขึ้น

เสรีกัญชากลายเป็นยาบำรุงสุขภาพในโลกยุคใหม่ เชื่อมโยงคนรุ่นเด็ก-ผู้สูงอายุที่เห็นตรงกันว่ามันไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป ปริมาณการบริโภคจึงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในคนวัยทองอายุ 60-80 ปี ซึ่งสะท้อนผ่านการเปลี่ยนความคิดของคนในสังคมและความนิยมผลิตภัณฑ์กัญชาที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การบริโภคกัญชาในยุคปัจจุบันเป็นความปกติใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ (New Normal)

วารสาร AARP สำรวจความคิดเห็นผ่านผู้อ่าน 38 ล้านคนร่วมกับสมาคมการแพทย์อเมริกัน (American Medical Association) พบว่าผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจำนวน 20% หันมาบริโภคกัญชาเพื่อสุขภาพทั้งในรูปแบบอาหาร เครื่องดื่มและช่อดอก โดยผู้ใช้กว่า 68% ยืนยันว่ากัญชาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการพักผ่อน การนอนหลับ ลดอาการปวด ลดอักเสบ และลดความเครียดได้ดี ซึ่งจุดที่ทำให้กัญชานิยมมากสุดคือใช้เพื่อความผ่อนคลาย (81%)

ขณะที่การตีพิมพ์ผลศึกษาวัยกัญชาในกลุ่มเจเนอเรชั่น Boomer ของ NORML ศึกษากลุ่มตัวอย่างกว่า 14,896 คน พบว่า ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี นั้นหันมาใช้กัญชาเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 4.2% ในปีที่ผ่านมา ส่วนห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Library of Medicine) พบว่าผู้สูงอายุที่มองกัญชาเป็นภัยร้ายทำลายสมองและต่อต้านการบริโภคกัญชาลดลงมากถึง 20% สะท้อนทัศนคิตที่สังคมเริ่มยอมรับกัญชามากขึ้น

ส่วนด้านวารสารวิชาการ Journal of American Geriatrics Society ตีพิมพ์เสียงตอบรับของผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีที่หันมาใช้กัญชาเพื่อสุขภาพว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมความสุขในวัยชรา หลีกหนีจากความเครียด ไปจนถึงช่วยจัดการภาวะทางอารมณ์ของวัยทองได้ดี เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไปที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากัญชาช่วยบำรุงสุขภาพโดยเฉพาะประสิทธิภาพในการพักผ่อนของผู้สูงอายุ

ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z นั้นเป็นกลุ่มที่นิยมกัญชามากที่สุด จนเกิดแคมเปญรณรงค์เลิกเหล้าแล้วหันมาบริโภคกัญชามากมายที่ผลักดันโดยคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มองว่ากัญชาช่วยเพิ่มความสุขลดความเครียดและที่สำคัญคือมันปลอดภัยกว่าแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามความเข้าใจของสังคมมาพร้อมกับโฆษณาชวนเชื่ออคติกัญชาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงอาจกล่าวได้ว่ากัญชาเป็นยาแห่งโลกยุคใหม่ที่แท้จริง