สหรัฐฯ จ่อเปิดเสรีร้านกัญชา ตามรอยโมเดลเมืองไทย ใช้สันทนาการ-ขายอาหารได้
1 min readรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเตรียมลงนามรับรองกฎหมายอนุญาตให้เปิดร้านกัญชาสันทนาการ สามารถเสิร์ฟอาหารร้อนและเครื่องดื่มได้ คล้ายกับคาเฟ่กัญชาเมืองไทยที่มีบริการครบวงจรจนสร้างชื่อเสียงให้กับวงการกัญชาไปทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นเมืองไทยยังมีจุดแข็งด้านธุรกิจ Wellness ระดับโลกครอบคลุมทั้งสปากัญชา นวดกัญชา โรงแรมกัญชาไปจนถึงคลินิกกัญชาเชิงการแพทย์ เรียกได้ว่าครบสูตรธุรกิจกัญชาหากรัฐบาลผลักดันอย่างแท้จริง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ลูกค้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐ จะสามารถสูบกัญชาในร้านอาหารบางแห่งได้ หลังกฎหมายฉบับใหม่อนุญาตให้เปิด “ร้านกัญชา” ซึ่งคล้ายคลึงกับที่พบได้ในประเทศไทยโดยเฉพาะในหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพ ประกอบกับบางรัฐในอเมริกาอนุญาตให้ปลูกและครอบครองได้เพื่อจำหน่ายและบริโภค มันจึงคล้ายโมเดลของไทยมากกว่าเมืองอัมสเตอร์ดัม
นาย Alex Ayon หนึ่งในผู้บริหารของธุรกิจกัญชาระบุว่า การปลดล็อคดังกล่าวจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ของผู้บริโภคกัญชาไปพร้อมกับยกระดับคุณภาพงานบริการลูกค้าที่ตอบโจทย์ความหลากหลายของการบริโภคมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งการสร้างวัฒนธรรมกัญชาในยุคใหม่บนความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือแม้แต่การใช้สันทนาการเพื่อเยียวยาจิตใจมนุษย์
อย่างไรก็ตาม กฎหมายกัญชาฉบับใหม่ดังกล่าวจะรวมถึงมาตรการอีกหลายข้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพ รวมถึงการที่พนักงานในคาเฟ่กัญชา หรือเลานจ์กัญชาสามารถสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันตัวเอง และได้มีการศึกษาถึงความเสี่ยง จากการสูดดมควันกัญชาจากผู้อื่น
นายแมตต์ ฮานีย์ สมาชิกสภารัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งร่วมผลักดันกฎหมายนี้ กล่าวว่า ธุรกิจกัญชาขนาดเล็กกำลังต่อสู้กับผู้ค้ายาเสพติดที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือหนีภาษี และเพื่อให้พวกเขาอยู่รอดและเติบโตได้ รัฐจึงต้องช่วยให้พวกเขาสามารถปรับตัว, สร้างสรรค์ และเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งในบางเมือง เช่น เวสต์ฮอลลีวูด ใกล้กับนครลอสแอนเจลิส เรียกร้องให้ตรากฎหมายดังกล่าวมาหลายปีแล้ว