รัฐบาลไทยดันส่งออกกัญชา จัดโปรลดค่าตรวจสาร ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย
1 min readรัฐบาลไทยสนับสนุนส่งออกกัญชา ดันสารสกัด THC ตีตลาดโลกด้านสุขภาพ รับเทรนด์ดีมานต์เติบโตต่อเนื่องมูลค่าทะลุ 9 ล้านล้านบาท กระทรวงสาธารณะสุขพร้อมจัดโปรลดค่านวัตกรรมตรวจแล็บ ส่งเสริมผู้ผลิตออกใบอนุญาต อย.เพื่อการันตีมาตรฐานสากลสร้างโอกาสการทำตลาดในเวทีโลก
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า mประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตเกี่ยวกับสารสกัดกัญชาเพื่อส่งเสริมการใช้อย่างปลอดภัยและผลักดันภาคอุตสาหกรรม โดยเปิดกว้างให้ภาคเอกชนสามารถขอสัดกัญชาได้จากเดิมที่อนุญาตเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะภาคการส่งออกสารกสัดกัญชาไทยนั้นส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตกับองค์การอาหารและยา (อย.) รวมถึงขออนุญาตการส่งออกกับหน่วยงานรัฐไทยและแจ้งประเทศปลายทางเพื่อประสานงานกับสหประชาชาติรับทราบการขนย้ายกัญชาข้ามประเทศ
นพ.สุรโชค กล่าวต่อว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์สุขภาพด้านกัญชานั้นภาครัฐสนับสนุนให้มีการขึ้นทะเบียนเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ตามกฎหมายเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น พ.ร.บ.อาหาร ,พ.ร.บ.เครื่องสำอาง และพ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว สามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้ ไม่สะดุดในแง่ของอุตสาหกรรม
ด้าน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในปีนี้กรมฯ จะมีการลดแลกแจกแถม ผ่านการลดราคาค่าองค์ความรู้นวัตกรรมการตรวจสารสกัดกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ จาก 300,000 บาท เหลือ 50,000 บาท เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการจำนวนมากติดขัดเรื่องการลงทุนนวัตกรรมดังกล่าว ดังนั้นกรมฯ จึงมุ่งมั่นตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการที่จะทำตลาดเชิงพาณิชย์เป็นหลักมากขึ้น อย่างไรก็ตามด้านการตรวจความเข้มข้นของสารกัญชาเพื่อนำไปปรับใช้ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมนั้น กรมจะรับตรวจวิเคราะห์สารสกัดกัญชากัญชงว่ามีปริมาณสาร THC สาร CBD และสารอื่นๆ เท่าไร ซึ่งพร้อมตรวจให้กับทุกหน่วยงานและผู้ประกอบการตามวัตถุประสงค์ที่ร้องขอ เช่น แจ้งว่ามีสารแต่ละชนิดเท่าไหร่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็จะตรวจสอบว่าเป็นจริงตามที่มีการแจ้งหรือไม่ จากนั้นผู้ที่ส่งมาตรวจวิเคราะห์ก็สามารถนำผลการตรวจไปดำเนินการต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่จะนำผลแล็บไปยื่นขึ้นทะเบียนกับ อย.
รายงานข่าวระบุว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพนั้นมีมูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างมาก โดยคาดว่าภายในปี 2030 จะโตทะลุ 9.5 ล้านล้านบาท สะท้อนเทรนด์ของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงส่งเสริมให้ขอใบอนุญาตจากหน่วยงานอย่างถูกต้องเพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันตลาดโลก เช่น การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับ อย. ผ่านการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่การปลูก ซึ่งภาคอุตสาหกรรมมีการขออนุญาตแหล่งปลูกชัดเจน สารสกัดถูกตรวจสอบปริมาณสารชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณสาร THC และสาร CBD รวมถึงการขึ้นทะเบียนมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดเรื่องความปลอดภัย เช่น ปริมาณสารสกัดที่ให้ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องสำอาง และมีคำเตือนและฉลากชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณสารสกัด มาตรฐานทั้งหมดนี้เหมือนเป็นใบการันตีเบื้องต้นเรื่องความปลอดภัยจากรัฐไทยเพื่อใช้สร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าที่ประเทศปลายทาง