ผู้หญิงใช้กัญชาแซงหน้าผู้ชาย สร้างสถิติใหม่ครั้งประวัติศาสตร์
1 min readการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนผ่านตัวเลขยอดขายของอุตสาหกรรมมูลค่า 900,000 ล้านบาท ที่พบว่าผู้หญิงมีสัดส่วนมากกว่า 80% ของการตัดสินใจซื้อกัญชาในสหรัฐอเมริกา ทำให้อุตสาหกรรมกัญชากำลังปรับตัวขนานใหญ่รับเทรนด์ผู้บริโภคที่กลายเป็นผู้หญิงสูงกว่าครึ่ง ส่งผลถึงตลาดกัญชาเสรีทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยอาจได้เห็นลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เป็นครั้งแรกที่มียอดขายจากผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย การสํารวจที่จัดทําโดยสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการใช้ยาเสพติดแห่งชาติ (NIDA) ในปีที่ผ่านมาพบว่า สัดส่วนลูกค้าผู้หญิงมากที่สุดคือคนในวัย Gen Z ผู้หญิงอายุ 19 ถึง 30 ปีมีการใช้กัญชาเหนือกว่าผู้ชาย Nora Volkow ผู้อํานวยการ NIDA เชื่อมโยงการเพิ่มขึ้นนี้กับเหตุผลทางการแพทย์ รวมถึงความเครียดและความวิตกกังวลของคนในยุคสมัยใหม่
ข้อมูลดังเชิงสถิติดังกล่าวสอดคล้องกับฐานยอดผู้ซื้อในข้อมูลจาก Jointly ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้นหาผลิตภัณฑ์กัญชาพบว่าขณะนี้ผู้หญิงคิดเป็น 55% ของฐานผู้ใช้ นอกจากนี้ ที่ Housing Works Cannabis Co ในนิวยอร์ก ขนาดการซื้อเฉลี่ยของผู้ซื้อหญิงในเดือนกันยายนอยู่ที่ 91 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าลูกค้าผู้ชายที่ใช้จ่าย 89 ดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทผู้ผลิตสินค้ากัญชารายใหญ่อย่าง Tilray ได้ตอบสนองต่อเทรนด์ดังกล่าวด้วยการเพิ่มไลน์การผลิตสินค้าที่สุภาพสตรีชื่นชอบทั้งด้านสุขภาพ Wellness เช่น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ยา และเครื่องสำอางเป็นต้น ส่วนอีกด้านที่เป็นเทรนด์เติบโตแรงสำหรับผู้หญิงคือเครื่องดื่มกัญชั้งในรูปแบบเครื่องดื่มเย็นและเครื่องดื่มร้อนอย่างชา
บริษัทกัญชาต่างๆเริ่มให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือแนวโน้มดังกล่าวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่อายุน้อยวัย Gen Z ซึ่งมีงานวิจัยจำนวนมากระบุว่าบริโภคแอลกอฮอล์และยาสูบน้อยลง โดยเปลี่ยนหันมาบริโภคกัญชาแทนเพราะมองว่าปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า
กระแสผู้หญิงบริโภคกัญชาสูงที่สุดในประวัติการณ์ของตลาดกัญชาที่ใหญ่สุดในโลกอย่างสหรัฐ เกิดขึ้นเนื่องจากความยอมรับของสังคมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังจากปลดล็อคกัญชาเสรีในหลายรัฐมีการเผยแพร่ความรู้ด้านกัญชาจนคนออกมาโหวต YES ให้ปลดล็อคหลายแห่ง แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อกัญชาจากร้านค้าถูกกฎหมายด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยมาเป็นอันดับต้นๆ
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก veriheal และ reuter