‘อิฐปุ๊น’ ช่วยลดความเสี่ยงจากตึกถล่มได้ ญี่ปุ่น-อิตาลี่ เลือกใช้
1 min read
แผ่นดินไหว-ตึกถล่ม ‘ปุ๊น’ จะช่วยลดโศกนาฏกรรมนี้?? ส่องโมเดล ญี่ปุ่น-อิตาลี่-ฟิลิปปินส์ ใช้อิฐปุ๊นอัพเกรดอาคารสูง เพิ่มความทนทาน-ลดความเสียหายจากแผ่นดินไหว “Hemp-crete” นวัตกรรมแห่งโลกอนาคตที่แข็งแกร่งต่อแรงสะเทือนและป้องกันไฟไหม้ได้อีกด้วย
.
จากกรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากตึกถล่มหลังแผ่นดินไหว จึงเริ่มมีการพูดถึงวัสดุก่อสร้างที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงทนทานของอาคารต่างๆ ซึ่ง เฮมพ์กรีต (Hempcrete) คือ วัสดุก่อสร้างชีวภาพที่มีแกนและเส้นใยของต้นปุ๊น โดยมีงานวิจัยตีพิมพ์ออกมาทั่วโลก ว่าเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักเบา ช่วยเสริมการรับแรงกระแทกและแรงกดอัดได้ จึงนิยมนำมาใช้ในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง (Earthquake prone-area) ทั่วโลกได้เริ่มใช้อิฐปุ๊นในการเป็นวัตถุดิบก่อสร้างตึกสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติความเหนียวทนทานและความหนาแน่นต่ำ ทำให้มันสามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดิวไหวได้ดี ไม่ทำให้ผนังมีรอยแตกร้าวเหมือนปูนคอนเกรีต นอกจากดูดซับพลังงานแผ่นดินไหวแล้ว ยังแข็งแรงกว่าคอนกรีตแบบเดิม ทนไฟ ระบายความร้อนภายในอาคารได้ดีกว่าอิฐดั้งเดิม 10 เท่า
.
ดร. Pankaj Srivastava ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรและผู้บริหาร Renaissance Park เปิดเผยว่า ปัจจุบันอิฐปุ๊นนั้นนิยมใช้อย่างแพร่หลาย อย่างในประเทศเฮติ ซึ่งประสบภัยายุเฮอริเคนและแผ่นดินไหวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้นำอิฐปุ๊นเข้าไปร่วมก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเกิดแผ่นดินไหวและซึนามินั้นมีการนำอิฐปุ๊นไปเสริมความแข็งแรงโครงสร้างอาคารเช่นกัน เช่นเดียวกับทางอิตาลี่ทางตอนใต้ที่มักเกิดภัยแผ่นดินไหว ไปจนถึงประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งต้องเผชิญพายุใต้ฝุ่นและมรสุมหลายลูกในแต่ละปี
.
ความลึกซึ้งของการใช้อิฐกัญชงนั้นขอโฟกัสไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งมองปุ๊นคือพืชศักดิ์สิทธิ์และมีความผูกพันกับคนญี่ปุ่นมานับ 10,000 ปี ตามเอกสารที่ตีพิมพ์ในปี 1916 โดยศาลเจ้าอิเสะ “จิงกูไทมะ” เคารพในฐานะสัญลักษณ์ของพระเจ้า ผูกโยงไปกับศาสนาชินโต อิฐปุ๊นจึงกลายเป็นวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับญี่ปุ่นยุคใหม่ในการศึกษาวิจัยด้านแผ่นดินไหวในปัจจุบัน ซึ่งมันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและยังสามารถเสริมความแข็งแรงของอิฐ-คอนกรีตแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย