Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

นโยบายทรัมป์บ้า สะเทือนสายเขียว ป่วนวงการปุ๊นโลก!?

1 min read

นโยบายบ้าคลั่งสุดโต่งของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังทำให้ปุ๊นมีราคาแพงขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่เมล็ดปุ๊นไปจนถึงไฟปลูกและกระดาษโรล คนไทยอาจได้ใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๊นแพงขึ้น หลังสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าหลายประเทศรวมถึงไทย โดนอัพไป 36% หากทุกประเทศตอบโต้ทรัมป์โดยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ส่อกระทบราคาสินค้าปุ๊นทั้งโลก……สุดท้ายคนที่ต้องจ่ายหนักสุดคือสายเขียว!!!!

เช้าวันนี้สายเขียวในสหรัฐต้องตื่นมาพบกับราคาปุ๊นที่แพงขึ้นหลังจากอเมริกาประกาศขึ้นภาษีทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากอุตสาหกรรมปุ๊นของอเมริกาต้องพึ่งพาการซัพพลายต่างๆจากทั่วโลกเพื่อผลิตสินค้า ดังนั้นการขึ้นภาษีนำเข้าย่อมทำให้ผลิตภัณฑ์ปุ๊นขายแพงขึ้นตามต้นทุนที่มากขึ้นของผู้ประกอบการ กลุ่มตลาดค้าปลีก เช่น แพ็คเกจซองใส่ดอก กระปุกใส่เรซิ่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปุ๊นไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนกลุ่มฟาร์มเจอพวก ชิปไฟปลูก ธาตุปุ๋ยP-K ปุ๋ยอินทรีย์ แม้แต่กลุ่มเครื่องดื่มปุ๊น ยังต้องเจอต้นทุนอลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้คือต้นทุนพื้นฐานในการผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับปุ๊นทั้งสิ้น ย่อมทำให้ราคาสินค้าหน้าร้านแพงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามนโยบายดังกล่าวกดดันให้บริษัทปุ๊นของสหรัฐจำนวนมากย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีนและมาเลเซีย ขณะที่หลายประเทศทยอยขึ้นภาษีตอบโต้ ทั้ง ยุโรป แคนาดา เม็กซิโก เป็นต้น

สายเขียวชาวไทยจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐในแง่การส่งออกผลิตภัณฑ์ปุ๊นไปขายที่อเมริกาได้ยากมากยิ่งขึ้น จากต้นทุนทางภาษีถึง 36% เสียโอกาสการแข่งขันด้านราคากับประเทศยุโรป ในทางกลับกัน หากประเทศไทยใช้นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้เหมือนกับหลายๆประเทศที่ดำเนินการไปแล้ว จะทำให้ผลิตภัณฑ์ปุ๊นที่นำเข้าจากสหรัฐแพงขึ้นทันทีในประเทศไทย คนที่ต้องจ่ายเพิ่มก็คือสายเขียวผู้บริโภคทั่วไปนั่นเอง

เราได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ปุ๊นที่คนไทยชื่นชอบสั่งนำเข้าจากสหรัฐฯ เช่น กระดาษโรล เมล็ดพันธุ์ใหม่ล่าสุด กัมมี่ปุ๊น สกินแคร์ปุ๊น อาหารเสริม Cee-BD ไฟปลูกปุ๊น ปุ๋ยชื่อดังต่างๆ อุปกรณ์ปลูก ตัวดูดไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ไฟฟ้า สารสกัดปุ๊น เครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นต้น แม้จะไม่กระทบกับราคาช่อดอกปุ๊นโดยตรง แต่การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ ย่อมหมายถึงราคาขายที่เพิ่มขึ้นด้วยในมุมของผู้ประกอบการ ดังนั้นผู้บริโภคอย่างเราๆก็คงต้องเตรียมรับมือ

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า นโยบายดังกล่าวจะกระทบเศรษฐกิจไทย (GDP) ประมาณ 0.6% และอาจทำให้ทั้งปี 2568 เติบโตได้ไม่ถึง 2.4% ตามที่ประมาณการณ์ไว้ ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์ว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนทะลักเข้ามาในประเทศ เพราะสหรัฐฯ ขึ้นภาษีกีดกันการค้าจีน จึงต้องหันมาระบายปล่อยสินค้าที่ไทย ยิ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของคนไทยลดน้อยลง เพราะไม่สามารถสู้สินค้าจีนที่มีต้นทุนถูกกว่าได้

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *