หั่นราคาปุ๊นโลก ผลผลิตล้น-ดอกใต้ดินแย่งตลาด
1 min read
ศูนย์วิจัยปุ๊นทางเศรษฐกิจชื่อดัง Whitney Economics เผยแพร่คาดการณ์อุตสาหกรรมปุ๊นล่าสุด โดยหั่นอัตราการเติบโตใน USA ลดลง 600,000 ล้านบาทในรอบ 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัญหาผลผลิตล้นตลาด การทุ่มตลาดของปุ๊นเถื่อน รวมถึงนโยบายจากภาครัฐ โดยเทรนด์ดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในประเทศที่ปลดล็อกปุ๊นเสรีทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และไทย เป็นต้น
จากสถิติพบว่าผลประกอบการของธุรกิจปุ๊นลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เช่น Massachusetts, Michigan, Colorado, Illinois, Arizona, Washington รวมถึงเมืองใหญ่อย่าง California เรียกได้ว่าทั้งยอดขายและราคาดอกไม้ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีบางแห่งราคาดลดลงไปหลายเท่าตัว
สำนัก Whitney Economics ระบุว่า ปัญหาหลักคือการผลิตปุ๊นสมุนไพรมากเกินกว่าความต้องการในปัจจุบัน ทั้งในแง่พื้นที่การผลิตและปริมาณการผลิตที่มากเกินไปสำหรับดีมานต์ที่มีอยู่ จึงเป็นกลไกสำคัญในการลดอัตราเติบโตลงอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับปุ๊น นอกจากนี้ผู้ประกอบการถูกกฎหมายยังต้องแบกรับภาระต้นทุนทางภาษีสูงลิ่ว ทำให้แข่งขันด้านราคากับตลาดใต้ดินได้ยากมากขึ้น
การรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของผู้บริหารฟาร์มปุ๊นรายใหญ่ในแคนาดาอย่าง Rosebud Farm ซึ่งระบุว่า แคนาดากำลังเจอกับปัญหางานแดดล้นประเทศ การผลิตปุ๊นแบบกรีนเฮ้าส์ ซึ่งได้ผลผลิตมากแต่คุณภาพต่ำกว่าในร่มนั้นกำลังฉุดราคาปุ๊นในแคนาดาอย่างต่อเนื่องเพราะตลาดอิ่มตัวจนทำให้ดอกไม้ในร่มคุณภาพตั้งราคาสูงได้ยาก
ขณะที่รายงานข่าวจากประเทศไทยระบุว่า ปัญหาปุ๊นสมุนไพรใต้ดินทุ่มตลาดปลูกแข่งกับคนไทยเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของปัญหาราคาผลผลิตตำต่ำในช่วงสองปีที่ผ่านมา ส่วนปัจจุบันเริ่มพบว่ามีนายทุนต่างชาติเข้ามาคว้านซื้อฟาร์มปลูกของคนไทยที่ประกอบกิจการต่อไม่ไหว จนน่าหวั่นใจว่าต่อไปฟาร์มขนาดใหญ่จะมีแต่นายทุนและนอมินีนายหน้าชาวต่างชาติหรือไม่
“ราคาที่ลดลง การมีส่วนร่วมที่น้อยลง และสินค้าทดแทนที่มากขึ้นจะส่งผลให้รายได้ลดลง ด้วยเหตุนี้ เราจึงปรับลดคาดการณ์ ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่น่าหดหู่สำหรับอุตสาหกรรมที่เคยคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตที่สูงมาก แม้จะยังคงเติบโตได้ในอนาคตแต่อัตราเร่งจะลดลงอย่างมาก” Whitney Economics กล่าว
#NewsFeed#NotForSale#nothingtosale#Education