วิจารณ์ฉ่ำ! ‘ไทยเมืองปุ๊น’ ยกชั้นเทียบ ‘New York’ กลิ่นปุ๊นลั่น-สายเขียวล้น
1 min read
สื่อไทยแห่ประโคมข่าว นักท่องเที่ยวต่างชาติวิจารณ์ยับ ปมกลิ่นปุ๊นฉ่ำทั่วเมือง ยกชั้นเมืองไทยเทียบมหานครนิวยอร์ค ในแง่ของกลิ่นปุ๊นสมุนไพรที่มีอยู่ทุกที่และสายเขียวที่แห่เข้ามาท่องเที่ยวจนล้นถนน ด้านผู้ประกอบการโวย กฎหมายไทยทำป่วน-ไม่สอดคล้องบริบทผู้บริโภค ส่วนพัทยาเดินหน้าจัดระเบียบกลิ่นปุ๊นสมุนไพรในแหล่งท่องเที่ยว
สำนักข่าวบางกอกโพสต์ เผยแพร่ข่าว “Thailand faces lower tourist numbers” จับประเด็นเสียงสะท้อนนักท่องเที่ยวต่างชาติ มองประเทศไทยมีกลิ่นปุ๊นโชยอยู่ทุกที่ และมีสายเขียวจำนวนมากตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเขามองว่าเป็นนักท่องเที่ยวด้อยคุณภาพ พร้อมคอมเม้นต์ท่องเที่ยวไทยราคาแพงขึ้นมาก ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีธรรมชาติที่งดงามและจ่ายน้อยกว่า
ด้านแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการปุ๊นหลายรายระบุว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับบริบทความเป็นจริง โดยมีการห้ามบริโภคสมุนไพรปุ๊นในร้านค้า เหมือนบีบให้ผู้บริโภคต้องไปใช้ตามท้องถนน จนเกิดปัญหากลิ่นรบกวน เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สับสนว่าทำไมประเทศไทยห้ามบริโภคในร้าน การบีบบังคับให้พวกเขาไปใช้ในที่สาธารณะหรือท่าส่วนตัวก็ย่อมตามมาด้วยปัญหาเรื่องกลิ่น แตกต่างจากร้านค้าที่มีระบบระบายอากาศรัดกุม ดังนั้นจึงเสนอว่าควรปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปิดให้สามารถบริโภคในร้านได้ จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งยังลดความเสี่ยงจากการโดนรีดไถโดยเจ้าหน้าที่รับได้อีกด้วย ขณะที่ผู้ประกอบการปุ๊นเมืองพัทยาได้จัดงานประชุมแนวทางธุรกิจบริการร้านปุ๊นในเมืองพัทยาเพื่อแก้ปัญหากลิ่นรบกวนตามแหล่งท่องเที่ยว
.
รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า จากกรณีเสียงวิจารณ์นักท่องเที่ยวปุ๊นไร้คุณภาพนั้น ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงซึ่งข้อมูลตัวเลขจากนายกสมาคมปุ๊นภูเก็ตพบว่า การท่องเที่ยวเชิงปุ๊นสมุนไพรสร้างเม็ดเงินในปีที่ผ่านมาถึง 200,000 ล้านบาท ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ต้องการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยในรูปแบบพรีเมี่ยม เพือเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยว ผ่านการโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก หรือ Globall Wellness Destination โดยปักหมุดให้จังหวัดภาคใต้ให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน (Andaman Wellness Economic Corridor: AWC) ซึ่งเสียงตอบรับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น เกิดอีเวนท์เชิงปุ๊นระดับโลกมากมายในไทยไม่ว่าจะแนวบันเทิง การประชุมวิชาการ ไปจนถึงฟอรั่มเชิงเศรษฐกิจ-การค้