โลกสกัดปุ๊นไทย อัพต้นทุน-ทุ่มตลาดสมุนไพร

แหล่งข่าวจากบริษัทผลิตและส่งออกสมุนไพรปุ๊นขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า การปลดล็อคอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยที่ผ่านมา มีบริษัทยุโรปเดินทางมาสำรวจราคาในไทยอย่างต่อเนื่องแทบทุกเดือน เมื่อเห็นราคาสมุนไพรปุ๊นไทยถูกต่ำกว่าตลาดโลก จึงมีการตั้งเกณฑ์ต้นทุนด้านมาตรฐานเพิ่มขึ้นเพื่อสกัดปุ๊นส่งออกจากไทย ซึ่งพบล่าสุดพบว่ามาตรการดังกล่าว ดีดราคาปุ๊นไทยขึ้นไปแตะ 3 เท่า หรือเกือบ 300% เมื่อไปถึงปลายทางในยุโรป

“ตอนนี้ประเทศใหญ่ในยุโรป เช่น เยอรมันและแคนาดามีการตั้งเกณฑ์ต้นทุนมาตรฐาน GMP และ GDP เช่น ค่าแปร GDP กรัมละ 20 บาท และค่ามาตรฐาน GMP กรัมละ 40 บาท หากราคารับซื้อสมุนไพรปุ๊นอยู่ที่กรัมละ 35 บาท จะทำให้ราคาปลายทางสูงถึงกรัมละ 95 บาท (20+40+35) แล้วเอาราคาแบบนี้ไปแข่งกับคุณภาพแคนาดา” แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ยังระบุถึงสาเหตุของปัญหาซึ่งต่อให้ไม่มีฟาร์มเวียดนามและฟาร์มเถื่อนอื่นๆในไทย ปัญหาราคาตกต่ำจะไม่จบ เพราะจะโดนตลาดโลกรุมทุบราคาตลอด ที่ผ่านมาเกิดจากรัฐไทยไม่ควบคุมให้ดี ไม่มีแผนรับมือใดใด มันก็เหมือนช่วยเปิดช่องให้ฟาร์มต่างชาติใช้นอมินีมาลงทุนจนทำตลาดพัง จึงอยากฝากเรื่องนี้ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยกันผลักดันหน่อย เกษตรกรจะไปกันหมดแล้ว ซึ่งตนก็เริ่มจาก MOU กับมหาลัยขอนแก่นเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นล้อมรั้วยิ่งกว่าเรือนจำบางขวางโชคดีที่มหาลัยนี้ดีมากๆ ไม่ต้องบริจาคใดใด พร้อมฝากเตือนผู้ประกอบการว่านักลงทุนฝรั่งชาวต่างชาติมักมีนิสัยที่ต่อหน้าพูดจาทักทายกันดีแต่ลับหลังแทงกันยับบๆ จะว่าไปก็คล้ายวงการสมุนไพรไทยอยู่เหมือนกัน

รายงานข่าวล่าสุดจากอิสราเอลระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของอิสราเอลเตรียมประกาศขึ้นภาษีนำเข้าปุ๊นจากแคนาดาสูงถึง 165% เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดของแคนาดา หลังจากคณะกรรมาธิการด้านมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดของกระทรวงเศรษฐกิจพบว่ามีสมุนไพรปุ๊นทะลักเข้ามาขายในประเทศจำนวนมากจนอาจกระทบกับผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนปัญหากำแพงการค้าปุ๊นของโลกว่ามันมีอยู่จริง

“หลังจากการสืบสวนทางเศรษฐกิจที่ผมเป็นผู้นำ ซึ่งพบว่ามีการนำเข้าปุ๊นสมุนไพรจากแคนาดาด้วยราคาที่ต่ำจนสร้างความเสียหายอย่างมากต่ออุตสาหกรรมในประเทศ จึงได้ตัดสินใจกำหนดอากรต่อต้านการทุ่มตลาดสำหรับการขึ้นภาษีนำเข้าระหว่าง 63%-369%” Dany Tal ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการนำเข้าและกรรมาธิการด้านมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด กล่าว