ปิดกั้นกัญชา ชาวบ้านเดือดร้อน ธุรกิจเสียหาย แก้ปัญหายาเสพติดไม่ได้!?
1 min readดร.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณ๊ที่รัฐบาลจะปรับช่อดอกกัญชาให้กลับไปสู่บัญชียาเสพติดว่า จะกระทบกับชาวบ้านและผู้ป่วยแน่นอน การปรุงยากัญชาเพื่อใช้รักษาตัวเองก็จะทำไม่ได้ เพราะหากเป็นยาเสพติด ก็จะต้องถูกใช้ในทางการแพทย์และวิจัยเท่านั้น ฉะนั้น วิถีชาวบ้านที่ไม่นับเป็นการแพทย์ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องสำอาง อาหาร อาหารเสริมก็ผลิตไม่ได้ทั้งนั้น อย่างปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ออกมาเยอะมาก เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม ที่มีความปลอดภัยแต่ก็ไม่ใช่ทางการแพทย์ ก็จะกลายเป็นผิดกฎหมายไป
ดร.ปานเทพ กล่าวอีกว่า มีความเป็นห่วงว่ากระทรวงสาธารณสุข อาจยังไม่ได้ฟังความเห็นนอกกระทรวง เช่นผู้ที่ได้ประโยชน์ ผู้ลงทุนอย่างสุจริต หรือผู้ที่ใช้ประโยชน์เพื่อสุขภาพจริงๆ เป็นอย่างไร หรือมีการสำรวจการใช้ที่ผ่านมาแล้วหรือยัง ดังนั้น ขึ้นอยู่กับขอบเขตที่จะมีการประกาศเอาบางส่วนของกัญชาเป็นยาเสพติด ได้ประเมินคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และปลอดภัยเอาไว้หรือไม่ ถ้าพิจารณาไม่รอบด้านถึงส่วนนี้ก็จะเกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างสุจริต ในทางกลับกันหากเป็นยาเสพติดแล้ว การควบคุมโดยร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ก็อาจจะซ้ำซ้อนหรือไม่สอดรับกันด้วย จึงต้องไปพิจารณาเพื่อหามาตราควบคุมอย่างไรให้เหมาะสม
“หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่บังคับใช้กฎหมาย ต่อให้เป็นยาเสพติด ก็จะมีคนลักลอบใช้อยู่ดี เพราะอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้เกือบ 90% เป็นการใช้กัญชาใต้ดิน นั่นแปลว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องกฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายด้วย” ดร.ปานเทพกล่าว