Business

ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาด่าสายเขียวว่า “เบาปัญญา” ซึ่งแปลง่ายๆว่าโง่นั่นแหละ มาจากข้อมูลราชบัณฑิตคำว่า “โง่เขลาเบาปัญญา” สาเหตุที่ออกมาด่าสายเขียวแบบนี้เพราะถูกกดดันเรื่องการเปรียบเทียบโทษภัย-อัตราการเสพติดของ “สุรา-บุหรี่-กัญชา” ว่าสิ่งไหนมีปัญหาการเสพติดและเยาวชนเข้าถึงมากกว่ากันก่อนจะมาประกาศให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอย่างเดียว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า อย่าไปโยงกับประเด็นอื่น เช่น การห้ามสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน มองว่าเป็นเรื่องเบาปัญญาที่เอามาเปรียบเทียบกันซึ่งตนมองว่าทำเรื่องที่อยู่ใกล้มือก่อน การโจมตีในลักษณะนี้ย่อมเท่ากับเป็นการด้อยค่าสายเขียวและปฏิเสธการชี้แจงเหตุผลที่ประชาชนผู้เสียหายต้องการทราบ...

รายงานข่าวจาก Channel Weed Thailand ระบุว่าแกนนำเครือข่ายผู้ใช้กัญชาเตรียมยื่นฟ้องร้องรัฐบาล เช็กบิลขบวนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เสี่ยงติดคุก! และต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนับแสนล้านบาท พร้อมเดินหน้าฟ้องศาลขอระงับคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ส่วนนายกรัฐมนตรีและนักการเมืองเตรียมโดน ม.157 ละเว้น/ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต้องไปจบที่คุก!! แม้จะมีหลายเครือข่ายสายเขียว แต่มีแนวทางเดียวกันคือปฏิบัติการโต้กลับ โดยจะเริ่มจากการฟ้องศาลปกครองเพื่อระงับคำสั่งที่ออกมาโดยมิชอบในการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จกานั้นจะเดินหน้าไปศาลรัฐธรรมนูญและผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อฟ้องร้องรัฐในฐานละเมิดสิทธิ์บริโภคและการละเมิดสิทธิ์ผู้ประกอบอาชีพสุจริต ภายหลังจากรัฐเปิดให้ทำธุรกิจกัญชาแต่อยู่ๆ จะมานำกลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้มีเคสที่ประเทศเม็กซิโกมาแล้วโดยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินลงโทษรัฐบาลที่ห้ามใช้กัญชาสันทนาการเพราะถือว่าละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชน...

สุดคึกคัก! เครือข่ายผู้ใช้กัญชาไทย จัดชุมนุมใหญ่รวมตัวแสดงพลังคัดค้านการนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด บริเวณหน้าสำนักงานสหประชาชาติ (UN) โดยมีผู้ใช้กัญชาจากทั่วประเทศหลั่งไหลกันมาชุมนุม พร้อมประกาศฟ้องร้องข้าราชการ-นักการเมืปงทุกคนที่อนุมัติให้กัญชาเป็นยาเสพติด ตลอดจนตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อส่งถึงนายกรัฐมนตรี ถือเป็นอีกม็อบใหญ่ที่รวมตัวสายเขียวจากทุกวงการและเป็นการแสดงพลังรวมตัวคัดค้านอย่างต่อเนื่องในรอบเดือนที่ผ่านมา สหพันธ์กัญชาไทย กล่าวถึอจุดยืนว่า 1.ขอให้ทบทวนการนำกระท่อมกลับเป็นยาเสพติด 2.ขอให้พรรคภูมิใจไทยสนับสนุน พรบ.กัญชาในรัฐสภา 3.ฟ้องร้องข้าราชการ-นักการเมือง-หน่วยงานที่ทำกัญชาเป็นยาดสพติด ทั้ง ม.157 และข้อหาละเมิดสิทธิ์สิธิ์การทำมาหากินสุจริต ผ่านการยื่นศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูณ 4.เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง...

สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังหลายแห่งต่างรายงานข่าวเรื่องการเสียโอกาสของประเทศไทยหากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ย่อมกระทบเม็ดเงินในอุตสาหกรรมซึ่งประเมินไว้สูงกว่า 30,000 ล้านบาท และมีโอกาสสูงถึง 48,000 ล้านบาท โดย The Guardian ระบุว่า การปลดล็อกกัญชาในครั้งนั้นก็มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเป็นอย่างมากในช่วงหลังโควิด เนื่องจากอุตสาหกรรมและธุรกิจกัญชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพและมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกในครั้งที่ไทยเริ่มปลดล็อกกัญชาเป็นชาติแรกในเอเชีย ปัญหาที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยคือเครื่องยนต์เศรษฐกิจ เก่า-พัง-ดับ ไม่มีอุตสาหกรรมใหม่ที่สอดคล้องเทรนด์โลกและสร้างความแตกต่างในภูมิภาคเอเซีย ซ้ำร้ายรัฐบาลไทยกำลังจะตัดโอกาสอุตสาหกรรมใหม่อย่างกัญชา ส่งผลให้ตัวเลข GDP ไตรมาสแรกของไทยเติบโตเพียง...

กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวอิศราเปิดข้อมูลเบื้องลึกพบเด็กพรรคเพื่อไทย ถือหุ้นบริษัทกัญชาดึงต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทย เปิดชื่อ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลือกันว่าเป็นสายตรงนายใหญ่ที่ส่งเข้ามาเสียบเก้าอี้รัฐมนตรี ถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับการออกมาโจมตีกัญชาของพรรคเพื่อไทยและสอดคล้องกับกระแสข่าวที่ระบุว่ามีนักการเมืองหลายคนเข้าไปมีเอี่ยวกับธุรกิจกัญชา จึงถือว่ามีพฤติกรรม “มือถือสาก ปากถือศีล” หรือไม่?? รายงานข่าวเจาะลึกไปยังสองบริษัท สยาม เมดเทค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ บริษัท...