Social

กลายเป็นข่าวใหญ่ในวงการกัญชาโลก เมื่อศาลสูงสุดของบราซิล ตัดสินให้การใช้กัญชาส่วนบุคคลไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย-พ่วงยกเลิกโทษอาญาครอบครองกัญชา ถือเป็นการปฏิรูปกัญชาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของชาติ มาตการปลดล็อกดังกล่าวจะทำให้การครอบครองกัญชาเพื่อบริโภคส่วนบุคคลจะไม่มีความผิด แต่ภาคการปลูกเชิงพาณิชย์และการจำหน่ายกัญชายังเป็นสิ่งกฎหมายอยู่ การเปิดเสรีขั้นแรกครั้งนี้ได้รับเสียงโหวตชนะในระดับศาลสูงสุด แม้จะยังไม่มีร่างกฎหมายกัญชาที่ชัดเจน แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาเศรษฐกิจกัญชา ซึ่งรัฐบาลบราซิลก็อยู่ระหว่างผลักดัน พรบ.กัญชาเช่นกันตอนนี้อยู่ในขั้นการเสนอต่อรัฐสภาล่าง แม้จะมีบางส่วนออกมาคัดค้านให้ร่างกฎหมายเสร็จเสียก่อนค่อยอนุญาตให้ใช้กัญชา แต่ศาลบราซิลเลือกวิถีทางที่ต่างออกไปในครั้งนี้ ทั้งนี้ ประเทศบราซิลเป็นหนึ่งในชาติที่มีสายเขียวจำนวนมาก และมีการรณรงค์เครือข่ายสายเขียวที่แข็งแกร่งจนสามารถจัดม็อบเดินขบวนกัญชาได้ทุกปีด้วยตัวเลขผู้เข้าร่วมชุมนุมหลักพันคน

ส่องกฎหมายใหม่ ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติด พบเงื่อนไขส่อล็อกสเป็กเปิดช่องนายทุนต่างชาติโกยเงินคนไทย ซึ่งในร่างประกาศสธ.ฉบับที่กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นมีประเด็นการไม่กำหนดเรื่อง “เฉพาะที่อนุญาตให้ผลิตในประเทศเท่านั้น” และ “ไม่กำหนดให้เมล็ดกัญชากัญชงเป็นยาเสพติด” แตกต่างจากประกาศ สธ.ปี 2565 ที่กำหนดให้เฉพาะการอนุญาตใช้วัตถุดิบพืชกัญชาหรือกัญชงที่ปลูกภายในประเทศ และสารสกัดจากเมล็ดที่ได้จากการปลูกภายในประเทศเท่านั้น ดังนั้นกฎหมายนี้จึงส่อไปในทางเปิดช่องให้นายทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับรายงานพิเศษของกรุงเทพธุรกิจ กล่าวถึงข้อมูลจากวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนที่นำเอาเมล็ดกัญชาจากต่างประเทศเข้ามาปลูกในประเทศไทย ทำให้ช่อดอกกัญชาที่มีวางขายใน “จุดจำหน่ายกัญชา”ส่วนใหญ่ จะเป็นกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ สวนทางกับแนวทางที่ต้องการผลักดันการใช้ประโยชน์สายพันธุ์กัญชาไทย...

ประเทศชาติยุโรปลุยเต็มสูบเปิดกัญชาเสรี สวนทางกะลาแลนด์ประเทศสารขัณฑ์ ด้านเนเธอร์แลนด์เตรียมขยายพื้นที่กัญชาสันทนาการเพิ่มอีก 8 เมือง ได้แก่ Almere, Arnhem, Groningen, Heerlen, Maastricht, Nijmegen, Voorne aan Zee และเมือง Zaanstad โดยการจำหน่ายกัญชาเพื่อสูบสันทนาการจะได้รับการควบคุมอย่างใกล้ชิด ในเมืองต่าง ๆ...